6 เมษายน 2325
สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ และเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีพระนามเดิมว่า ด้วงเป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนบุตร 5 คน ของนายทองดี หรือ หลวง พินิจอักษร เสมียนตราในกรมมหาดไทย กับนางหยก หลานสาวเจ้าพระยาอภัยราชา ประสูติเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2279 พระองค์ได้ถวายตัวเข้ารับราชการ จนได้เลื่อนขึ้นเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ต่อมาในสมัยพระจ้ากรุงธนบุรีได้รับเลื่อน บรรดาศักดิ์เป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจขวานอก พระยาอภัยรณฤทธิ์ จางวางพระตำรวจซ้าย พระยายมราช กรมพระนครบาล และ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ตามลำดับ ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นในกรุงธนบุรี เนื่องจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงมีพระราชอัธยาศัยผิดไปจากเดิม เป็นเหตุ ให้พระยาสรรค์กับพวกคิดกบฏ แต่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งยกทัพไปตีเขมรกลับมาทันเหตุการณ์ และสามารถควบคุมสถานการณ์ ไว้ได้ บรรดาข้าราชการและประชาชนจึงพร้อมใจกันอัญเชิญ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ทรงพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินธร มหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ในขณะที่พระชนมายุ ได้ 46 พรรษา และนับเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อได้เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ได้ทรงพิจารณาว่ากรุงธนบุรีเป็นเมืองที่คับแคบ ยากแก่การขยับขยาย จึงโปรดฯ ให้ย้าย เมืองหลวงมาอยู่ทางฝั่งตะวันออก ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมกว่าแทนและพระราชทานนามเมืองหลวงใหม่นี้ว่า กรุงเทพมหานคร บวร รัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศมหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกทัตติยะวิษณุกรรม ประสิทธิ และต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเปลี่ยนนามใหม่เป็น กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงครองราชย์อยู่เป็นเวลา 27 ปีเศษ ก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2352 ทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ เพื่อเป็นการรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ได้ทรงปกครองประเทศไทยสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ในวันนี้ของทุกปี จะมีการประกอบพิธีทางศาสนา และนำพวงมาลาหรือพุ่มดอกไม้ไปถวายบังคมที่สถานพระบรมราชานุสรณ์ ตามที่ทางราชการกำหนด ที่มา : หนังสือประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก วรนุช อุษณกร หน้า 25-26
![]()