21 มีนาคม 2165

บันทึกของห้างชวา เรื่องการปรึกษาธุรกิจที่ปัตตาเวีย คำสั่งส่งไปให้เรือ บี เครื่องบรรณาการสำหรับ พระเจ้ากรุงสยามให้มอบเงินให้คณะราชทูต ความว่า ภายหลังจากที่ได้ตกลงให้เลิกกิจการห้างที่ปัตตานี และกรุงสยามแล้ว เรื่องนี้ความจริงควรจะได้ จัดการให้เรียบร้อยไปแล้วตั้งแต่ปีกลาย หากว่าจอห์นจูแดงไม่ขัดคำสั่ง โดยนำตัวเขาเองไปผูกพันกับธุรกิจของราชินี แห่งปัตตานีเสียจนถอนตนไม่ออก ฉะนั้น เข้าใจว่าจูร์แดงคงจะกลับมาไม่ได้ ถ้าเราไม่จัดส่งพาหนะไปรับมา พระเจ้ากรุงสยามยังได้จัดส่งคณะราชทูตไปยังเมืองปัตตาเวียกับเรือฟอร์จูน เพื่อปล่อยให้คนของเรา อยู่ที่นั่นต่อไปจนกว่าจะมีรับสั่งเป็นอย่างอื่น เมื่อได้พิจารณาถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินงานของห้าง เหล่านั้นน้อยมาก ไม่คุ้มค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นการส่งเรือไปค้าที่นั่นได้เพียงปีละลำทำให้เราจ้างคน ได้ไม่กี่คน และทำให้ใต้เท้าต้องขาดทุนเป็นจำนวนมากทุกปี ฉะนั้น จึงเห็นสมควรและได้ตกลงกันแล้วที่จะจัดให้เรือ เดอะ บี รับคณะราชทูตกรุงสยามกลับไป และรับคนของเราและสินค้าที่ยังเหลืออยู่กลับมาจากห้างดังกล่าวนั้น และ จัดส่งจานญี่ปุ่น 4 หีบ ไปให้ที่ปัตตานี และให้จัดส่งเงิน 500 เรียลอันละแปดไปด้วย เพื่อทำให้ราคาดีขึ้นและเป็นทาง ที่จะได้ใช้เหรียญเงินญี่ปุ่นให้หมดไปด้วย (เท่าที่เราได้รับการบอกเล่ามา) และต่อจากนั้นให้จัดการขนสินค้าผู้คนที่ เหลืออยู่ขึ้นเรือแล้วออกเรือต่อไปยังกรุงสยาม สำหรับที่นี่เห็นว่าควรส่งใยฝ้ายสีแดงและสินค้าอื่น ๆ ที่ซื้อง่ายขาย คล่องไปขายด้วยเข้าใจว่าสินค้าพวกนี้จะเหมาะสำหรับกรุงสยาม และอยากจะให้จัดการขายให้เสร็จระหว่างที่อยู่ที่ นั่นเท่าที่ภาวะตลาดจะอำนวย และอยากจะให้จัดหาซื้อกำปั่นญี่ปุ่นบรรจุเงินแท่งรวม 6 หีบ ขึ้นบรรทุกเรือ เสร็จ แล้วทางที่ดีควรหาวิธีนำไปแลกกับพริกไทยที่เมืองลิกอร์ ถ้าหากมีพริกไทยขาย หรือไม่ก็นำไปแลกเป็นเงินบาท ซึ่ง (ตามที่ทราบมา) จะเสียค่าแลกราวร้อยละ 20 แต่ถ้าหากทั้งสองประการไม่ได้ผล ก็ขอให้ส่งเหรียญเงินมากับเรือ เดอะ บี ส่งมาให้ที่ปัตตาเวีย ขออย่าคอย ห่วงว่าสินค้าจะขายไม่หมดก่อนเวลาอันจำกัด ถ้าไม่หมดก็ให้รีบกลับ เพราะเกรงว่าเรืออาจจะพลาดลมมรสุม และ อาจจะกลับมาที่นี่ไม่ได้ นอกจากนั้นยังเห็นสมควรที่จะให้จัดเครื่องราชบรรณาการไปถวายพระเจ้ากรุงสยาม ประกอบด้วยสิ่งของที่หายากเท่าที่จะหาได้ ซึ่งคงจะเป็นที่พอพระราชหฤทัย (พระเจ้ากรุงสยามทรงชอบสิ่งของ แปลก ๆ ที่หายาก และที่พระองค์ไม่เคยเห็นมาก่อน) มากกว่าที่จะได้รับเครื่องราชบรรณาการที่มีราคาสูง ๆ และ อยากจะให้จัดของกำนัลจำพวกสินค้าเป็นมูลค่า 200 เรียล ให้แก่ท่านราชทูตทั้งสอง กับสินค้าของกำนัลมูลค่า 20 เรียล ให้แก่ออกญาพระคลัง และสินค้าราคา 30 เรียล ให้แก่ราชเลขานุการในองค์ ขอให้ช่วยดูแลให้หพระเจ้ากรุง- สยามทรงช่วยแนะนำท่านราชทูตให้รู้จักกับ มร.เวบบ์ เจ้าหน้าที่ของเรา เพื่อจะได้ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้ ตลอดการเดินทาง และเห็นควรให้ มร.เวบบ์ กลับมาพร้อมกับท่านราชทูตในเรือด้วย เพราะท่านทั้งสองไม่ค่อยคุ้น กับการเดินทางทางทะเล และเพื่อคอยช่วยเหลือในการจัดส่งเรือออกมาจากปัตตานี และกลับจากกรุงสยามให้ทัน ฤดูมรสุมนี้ให้จงได้ดังกล่าวไว้แล้ว ริชาร์ด เฟอร์สแลนด์ โธมัส บรอคดอน ออกัสติน สปอลดิง เขียนที่ ปัตตาเวีย ลงวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1622 (1622/3)

21 มีนาคม 2500

จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดที่ 26 ของไทย ซึ่งคณะ รัฐมนตรีชุดนี้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500 โดยที่สภาผู้แทนราษฎรชุดที่ให้ความไว้วางใจแก่คณะรัฐมนตรี ซึ่งมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็น นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2500 คณะรัฐมนตรีจึงต้องออกจากตำแหน่งตามความในมาตรา 87 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 เพื่อเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรขึ้นใหม่ หลังจากเลือกตั้งสมาชิก ฯ เสร็จแล้ว ในวันที่ 21 มีนาคม 2500 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ตั้ง จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และในวันที่ 31 มีนาคม 2500 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ตั้งรัฐมนตรีชุดนี้ มีรายนามและพระนาม ดังต่อไปนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2500 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้พลอากาศโทเฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร พ้น จากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร วันที่12 กันยายน 2500 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลตรีศิริ สิริโยธิน รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสหกรณ์ พลโท ถนอม กิตติขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลโทประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลอากาศโทเฉลิม เกียรติวัฒนางกูร ขอลาออกจากตำแหน่ง และมี พระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง- กลาโหม กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์ อีกสองตำแหน่ง