รือนหมู่คหบดีเป็นเรือนขนาดใหญ่ มีจำนวนหลายหลัง หากเป็นบ้านเศรษฐีคหบดี มักจะปลูกแบบหันหน้าชนกัน
4 ด้าน เป็นรูป สี่เหลี่ยมล้อมวง มีชานอยู่ตรงกลางเรียกว่า ชานแล่น มีหอกลางเป็นหอโถง สำหรับเป็นที่ชุมนุมของ
ครอบครัว หากเป็นเรื่องขุนนาง หอกลางนี้จะสร้างให้มีขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่ว่าราชการ ตัวเรือนหอกลางจะยกพื้น
บางทีก็มีชายคาปีกนกยื่นออกมา    เพื่อให้เป็นพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น หมู่เรือนในเรือนคหบดี     มักจะประกอบด้วย
เรือนประธาน เป็นเรือนนอนที่มีขนาดใหญ่มาก เรือนลูกที่มี ขนาดย่อมลงมา เรือนขวางที่ใช้เป็นหอกลาง หรือหอ
หนัง เรือนครัวหอนก และชาน


                                                   พาไล      
เรือนไทย เรือนไทยมีด้านหน้าต่อเป็นชายคายื่นออกมาติดระเบียง
ถ้าทำหลังคาคลุมระเบียงมีหน้าจั่ว    แต่ลดขนาดย่อมลงมา เรียกว่า
เรือนพาไล ใช้เป็นที่รับแขกนั่งเล่น

   หอนก
สร้างขึ้นเพื่อใช้แขวนกรงนกเขา งานอดิเรกของคหบดีที่มักจะเลี้ยงนก
ปลากัด หรือเลี้ยงต้นไม้ไว้บนชานบ้านเป็นเครื่องเล่น โดยเฉพาะการ
เลี้ยงนกเขาเป็นงานอดิเรกที่นิยมในหมู่คหบดีทั้งหลายมีลักษณะเป็น
เรือนโล่ง ไม่ตีฝา มีขนาด 2 ช่วงเสา อยู่ด้านข้างกับหอนั่ง(เรือนขวาสุด)



                                      หอนั่งหรือหอกลาง   
เป็นเรือนขวางกับเรือนนอนใช้เป็นหอนั่งหรือหอกลาง นิยมให้อยู่
ู่ด้านหน้าของบ้านใช้เป็นที่สำหรับพักผ่อนรับแขกและรับประทาน
อาหารไม่จำกัดว่าจะต้องปลูกอยู่กลางชาน ลักษณะเรือนโปร่ง   3
ช่วงเสานอกจากนี้ยังเป็นที่สำหรับทำบุญเลี้ยงพระในเวลาที่บ้านมี
งานเลี้ยงได้ด้วย ถ้าเป็นกุฎิพระ หอนั่งนี้ก็เป็นหอฉัน หอสวดมนต์

 ชาน
เป็นส่วนเชื่อมเรือนทุกหลัง มีขนาดกว้างมากเปิดโล่งไม่มีหลังคา เป็นส่วนที่สัมผัสกับธรรมชาติได้มากที่สุดรับทั้ง
แสงแดดและลมในเวลาเดียวกัน พื้นชานยังสามารถใช้เป็นที่เลี้ยงบัว เลี้ยงไม้ดัดั เลี้ยงบอน สำหรับงานอดิเรกเลี้ยง
ต้นไม้ หากน้ำท่วม พี้นที่นอกชานยังเป็นสถานที่ที่ปลูกทั้งสวนครัวและไม้ประดับ