อาหารและสุขภาพ

นมแม่ เป็นอาหารที่สมบูรณ์ที่สุดของทารก นมแม่ให้สารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ
ของทารกแรกเกิดจนอายุ ๖ เดือน สิ่งที่จะช่วยป้องกันทารกแรกเกิดจากเชื้อโรคและโรคติดเชื้อที่มี
อยู่ทั่วไป มีอยู่หัวน้ำนมที่แม่ผลิตออกมาเมื่อคลอดลูกได้ ๒ - ๓ วันแรก หัวน้ำนมนี้คือภูมิคุ้มกันแรก
ของทารกจากแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูก ความรู้สึกนี้เป็นความผูกพันอัน
ลึกซึ้งจะส่งผลในทางบวกต่อแม่และลูก ทารกแรกเกิด ๑ - ๒ เดือน ที่ไม่ได้กินนมแม่จะป่วยด้วยโรค
ท้องร่วงอย่างน้อย ๒ ครั้ง และโอกาสที่จะเสียชีวิตเพราะโรคท้องร่วงนี้มีสูงขึ้นถึง ๒๕ เท่า การให้
ลูกกินนมแม่บ่อย ๆ ตั้งแต่แรกเกิดช่วยควบคุม ระบบฮอร์โมนโปรเจสเตอร์ในแม่ไว้ได้ในระดับสูง
ช่วยป้องกันการตกไข่ ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ระหว่าง ๖ เดือนแรกหลังคลอดได้ ๙๘% และ
ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งรังไข่ กินนมแม่ช่วยประหยัดเงินและสะอาด

โรคหวัดในเด็กไม่ต้องกินยาแก้ก็หายได้ โรคหวัดเป็นโรคธรรมดา ๆ ที่ไม่ร้ายแรง แต่อาจจะ
น่ารำคาญ เด็กที่มีอายุอยู่ในช่วง ๕ ปีแรก จะเป็นหวัดบ่อยมากปีหนึ่งเป็นถึง ๖ - ๘ ครั้ง บางคนเป็น
ต้นเดือนปลายเดือน ซึ่งพ่อแม่จะกังวลมากและพาไปหาหมอบ่อย ๆ หรือไม่ก็ซื้อยากินเอง

โรคหวัดเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด ซึ่งไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสหวัดได้ การรักษาคือ การบรรเทา
อาการที่น่ารำคาญเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องบรรเทาทุกอาการ พ่อแม่ก็สามารถที่จะดูแลเองได้ ยาแก้หวัด
บางอย่างที่มียาลดไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก และยาแก้แพ้ รวมอยู่ในตัวเดียวกัน ถ้ากินตลอดระยะเวลาที่เป็น
หวัดก็จะทำให้รับยาเกินความจำเป็น และมีผลเสียต่อเด็กได้ จึงไม่ควรกินยาผสมกันหลาย ๆ อย่าง
ส่วนยาลดไข้ก็ควรใช้ยาเดี่ยว ๆ คือ พาราเซตามอล ซึ่งให้กินเฉพาะเวลามีไข้ในช่วง ๒ - ๓ วันแรก
เท่านั้น สำหรับยาลดน้ำมูกนั้นอาจจะใช้ได้ผลดีเฉพาะได้ในผู้ใหญ่ แต่ในเด็กไม่ได้ผลดีเพราะมีฤทธิ์
ข้างเคียงใจเต้นเร็ว กระสับกระส่าย บางรายมีอาการชักจึงไม่ปลอดภัยในเด็กเล็ก ๆ ควรเช็ดน้ำมูก
หรือใช้ลูกยางแดง เบอร์ ๒ ดูดน้ำมูก ที่มักจะทำความรำคาญในช่วง ๒ - ๓ วันแรก ยาแก้แพ้ไม่ควร
ใช้เพราะจะทำให้มีอาการง่วงซึมและเสมหะแห้ง