ดูลักษณะที่ดิน ตามคติความเชื่อแล้วก่อนสร้างเรือนจะต้องหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกบ้านให้ตรง
ตามตำราดูลักษณะที่ดินโดยดูถึงความสูงต่ำของระดับดินบริเวณปลูกสร้างรูปทรงที่ดิน ตลอดจนเนื้อที่ทั้งหมดรวมทั้ง
สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติอีกด้วย
มื้อจั๋นวันดี สำหรับชาวเหนือก่อนจะปลูกเรือน
ฤกษ์งามยามดีเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเชื่อกันว่า หากปลูก
เรือนใน "มื้อจั๋น วันดี" คือฤกษ์ที่เหมาะสมแล้วผู้อยู่อาศัยย่อมมีความสุขความเจริญและอยู่เย็นเป็นสุขและครอบคลุมถึง
การหาฤกษ์ยามดีในขั้นตอนการปลูกเรือนอื่น ๆ เช่น เข้าป่าหาไม้มาทำเสาเรือน
ขุดหลุมฝังเสา ยกเสา เป็นต้น
การเข้าป่าตัดไม้ทำเสา
ตามคติโบราณจะกำหนดช่วงเวลาที่เป็นมงคลเอาไว้ว่าควรจะตัดไม้ในเดือนใดเมื่อ
ตัดไม้แล้ว หากไม้ล้มไปในทิศใดจะมีข้อความทำนายว่าควรนำเอามาทำเป็นเสาเรือนหรือไม่และหากไม้ไปพาดกับ
ต้นไม้อื่นไม่ควรนำมาสร้างเรือน
พิธีเสี่ยงทายในการตั้งบ้านใหม่
เพื่อหาบริเวณปลูกเรือนที่เป็นมงคล
โดยวิธีเสี่ยงทาย ใช้ใบฝาแป้ง 8 ใบ
ห่อของ 8 อย่าง จัดพานข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน นำไปยังที่ที่ต้องการจะปลูกบ้านตั้งเรือนเสี่ยงทายจับห่อสิ่งของ
1 ห่อ
เมื่อทำพิธีในบริเวณนั้นได้ห่อที่ไม่ดีก็ย้ายเสี่ยงทายในบริเวณอื่นๆสิ่งของเสี่ยงทายนั้นเป็นของที่มีสัญลักษณ์ทั้งสิ้นและ
มีความหมายถึงการดำเนินชีวิตภายหลังจากเข้าไปอยู่ในเรือนที่ปลูกในบริเวณที่เสี่ยงทายแล้วอาทิ ถ้าหากได้ห่อดิน
กระทำสิ่งใดจะสัมฤทธิ์ผลได้ห่อข้าวเปลือกจักอยู่สุขสวัสดิ์ ได้ห่อลูกหิน
จักอยู่ดีมีสุข ได้ห่อดอกไม้ จักมีชื่อเสียงได้
เกียรติยศ เป็นต้น
โฉลกเสาเรือน
เมื่อหาเสาเรือนครบ
ช่างไม้จะเป็นผู้ปรุงเครื่องเรือน โดยจะกำหนดความสูงและขนาด
ของเรือน ขณะตัดเสาก็กล่าวคำโฉลกให้ได้คำที่ดีเป็นสิริมงคล
พิธีขุดหลุมเสาเรือน
ก่อนจะขุดหลุมเสาเรือนต้องทำพิธีขอที่ดินกับพญานาคเพราะมีความเชื่อกันว่า
พญานาคเป็นสัตว์มีอิทธิฤทธิ์เป็นเจ้าแผ่นดินอำนวยความสุขหรือภัยพิบัติให้มนุษย์ได้ ฉะนั้นก่อนที่จะทำการอัน
เป็นมงคลเกี่ยวกับการสร้างบ้านปลูกเรือนจะต้องบูชาเซ่นสรวงผู้ที่เป็นเจ้าที่ดินเสียก่อนแล้วจึงทำพิธีขุดหลุมเสา
เรือนตามทิศที่เหมาะกับวัน
พิธีตัดเสาข่มนางไม้ การตัดไม้เสามาทำเป็น "เสามงคล" หรือ "เสานาง" นั้น เพื่อจะให้เสามงคลเป็น
เสาที่มี
อาถรรพ์ และศักดิ์สิทธิ์เป็นมงคลสำหรับตัวเรือนจริง ๆ และกันมิให้เสาตกมัน
จึงมีการทำพิธีตัดและเกลา
เสา การทำพิธีตัดเสานั้น ต้องหา "สล่า" หรือช่งไม้ที่มีความเข้าใจชำนาญในทางศาสตรเภท
คือ การแก้เสนียดจัญไร
อันเกิดจากไม้เสานั้น ต้องมีการตั้งขันคือการยกครูของภาคกลางเมื่อตั้งขันแล้วสล่าหรือปู่อาจารย์ก็ทำพิธีตัดเสาตาม
ตำราคือเสกขวานหรือมีดที่จะใช้ฟันก็ว่าคาถากำกับด้วยเป็นการข่มนางไม้
เมื่อเสร็จพิธีก็เอาไม้นั้นมาทำเป็นเสามงคล
หรือเสาเอก
พิธีปกเฮือน ครั้นได้ฤกษ์จะลงมือปลูกบ้านวันใด
จึงทำพิธีปลูกบ้านหรือ "ปกเฮือน" การปลูกเรือนมักเริ่ม
ทำกันแต่เช้าตรู่ ทำพิธียกเสามงคลและเสานางตลอดจนเสาอื่น ๆ ที่ได้เตรียมไว้ตรงปากหลุมแล้วช่างหรืออาจารย์
จะ
ทำพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่เพื่อให้การทำงานครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี
พิธีทำขวัญเสามงคล
เมื่อทำพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่เสร็จเรียบร้อยจึงทำ " พิธีทำขวัญเสามงคล"
ตามตำราโบราณ
ถือว่าเสามลคลเป็นพญาของเสาทั้งปวง เสามงคลเป็นเสาพ่อ เสานางเป็นเสาแม่อยู่คู่กัน
จึงมีพิธีเรียกร้องขวัญไว้ คำ
เชิญขวัญนิยมเลือกหาผู้ที่จะว่าเชิญเชิญขวัญได้ไพเราะเตรียมเครื่องเพื่อประพรมและผูกเสามงคลเมื่อถึงฤกษ์ยกเสา
มงคลเป็นเสาแรกและยกเสานางเป็นเสาที่สอง
พิธีฝังเสามงคลหรือเสานาง
ให้คนที่มีชื่อ " แก้ว คำ เงิน ทอง มั่น แก่น "
มาเป้นผู้ช่วยหามเสาและยกเสา
ลงหลุม เพื่อจะได้ ้เป็นมงคลแก่เจ้าของบ้าน ก่อนที่จะฝังหาใบเต๊า ใบหนุน
ใบดอกแก้ว ใบตันมากรองหลุมทุกหลุม
เพื่อเป็นคติว่าจะได้ช่วยค้ำจุนให้บ้านเรือนหลังนั้น
มีความเจริญรุ่งเรือง
เสามงคลและเสานางนี้
คนโบราณถือมากในเรื่องการปรนนิบัติรักษา และเชื่อว่าจะต้องรักษาความสะอาด
อยู่เสมอผู้ใดจะปัสสาวะรดหรือทำสกปรกไม่ได้ บางแห่งจะมีหิ้งติดไว้ทางหัวนอนและมีดอกไม้ธูปเทียนบูชาด้วย
เมื่อเสร็จพิธีปลูกเรือนแล้วจากนั้นสัก 3 หรือ 7 วัน จึงทำการมุงหลังคาและส่วนอื่น
ๆ และดูฤกษ์ยามเพื่อขึ้นบ้านใหม่