ในการปลูกเรือนของคนภาคใต้เชื่อถือโชคลางเช่นกันเช่นห้ามปลูกเรือนบนจอมปลวกห้ามปลูกบ้านคร่อม
ตอไม้ห้ามสร้างบ้านบนทางสัญจร


                 การเลือกที่ดินที่เป็นมงคล  ให้ดูสีพื้นดินที่เป็นสีอ่อน หรือดินสีแดง สีเหลืองกลิ่นหอมรสฝาดพื้น เทลาด
จากทิศใต้ลงสู่ทิศเหนือจะทำให้ผู้อยู่อาศัยเจริญด้วยลาภยศบริวารอีกประเภทคือ พื้นที่สูงทางทิศตะวันตก แล้วค่อย
ลาดเอียง ไปทางทิศตะวันออก ดินสะอาด หรือมีสีขาว สีเหลือง สีแดง ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ซึ่งจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความ
สุขปราศจากโรคภัย  ส่วนประเภทที่สามได้แก่พื้นภูมิบ้านที่มี ลักษณะราบเรียบเสมอดินสะอาดและปราศจากกลิ่นรส
เป็นทำเลที่ไม่ให้คุณและโทษใช้เป็น ที่อยู่อาศัยได้

                 ส่วนข้อห้าม ได้แก่ ห้ามปลูกบ้านตรงพื้นที่เฉอะแฉะ สกปรก ดินเลนสีดำ ดินมีหลากสี มีกลิ่นไม่บริสุทธิ์
ห้ามปลูกบ้านเดือน 4 ให้ปลูกบ้านเดือน 10 การทำบันไดบ้านต้องหันไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออกจำนวนบันได
ต้องเป็นเลขคี่ ห้ามปลูกเรือนคร่อมคู คลองหรือแอ่งน้ำ เป็นต้น

                 การคัดเลือกเสาเรือน   ภาคใต้ให้ความสำคัญกับเสาเรือนซึ่งเป็นโครงสร้างรากฐานสำคัญ เช่นเดียวกับ
ภาคกลางและภาคเหนือ กล่าวคือ เสาเอก ต้องไม่มีตำหนิ มีตา ไม่ตกน้ำมัน นำมาตกแต่ง ด้วยผ้าแดง หรือด้ายดิบ
สามสี (แดง เหลือง ขาว) คาดติดไว้กึ่งกลางเสาพร้อมด้วยกล้ามะพร้าว และต้นอ้อย บางท้องถิ่นใช้รวงข้าว ขวดน้ำ
กล้ามะพร้าว หน่อกล้วยผูกติดกับเสา

                 ข้อห้ามและคติอื่น ๆ การปลูกเรือนแต่ก่อนมีคติถือกันว่า ถ้าปลูกเรือน " ขวางตะวัน "    คือ หันข้างเรือน 
 ไปทางทิศตะวันออกหรือตกไม่ดี คนอยู่จะไม่มีสุข มักเป็นเหตุให้เสียตา เพราะไปขวางหน้าตะวัน ถ้าจะปลูกเรือน
ให้ปลูก   " ตามตะวัน" คือ หันข้างเรือนไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ จึงจะเป็นมงคล อยู่เย็นเป็นสุขสบายดี ถ้าเนื้อที่
บ้านคับแคบ ปลูกเรือน   ให้หันข้างเรือนไปตามดวงตะวันไม่ได้ ก็ต้องหาทางปลุกให้เฉียงตะวัน   คือ อย่าหันข้าง
เรือนตรงกับตะวันนักก็ใช้ได้ เช่นกัน คตินี้ถือปฏิบัติกันในภาคกลาง และใต้ ส่วนภาคเหนือ     จะวางเรือนขวาง
ตะวันแตกต่างจากภาคอื่น ๆ

                 จำนวนบันไดของเรือนในทุกภาค ไม่นิยมทำเป็นเลขคู่ มักทำลูกขั้นบันไดเป็นเลขคี่ คือ 1-3